top of page

จัดการอย่างมืออาชีพเมื่อส่งสินค้าไปต่างประเทศแล้วโดนตีกลับ

หนึ่งในปัญหาที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นใน Facebook, Line, Instagram, TikTok, หรือแพลตฟอร์ม E-Commerce อื่น ๆ น่าจะต้องเคยประสบพบเจออย่างยากที่จะหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้ขายแค่ในประเทศ แต่เป็นร้านแบบ ‘World Wide Shipping’ หรือมีบริการจัดส่งทั่วโลก ปัญหาอย่างการ ‘ส่งสินค้าไปต่างประเทศแล้วโดนตีกลับ’ อาจทำให้เกิดความวุ่นวายตามมามากมาย ดังนั้น เพื่อช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถรับมือกับปัญหานี้ได้อย่างไม่ตื่นตระหนก เราจะมาอธิบายข้อควรรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้อย่างกระจ่าง


การเขียนที่อยู่อย่างรอบคอบป้องกันการส่งสินค้าไปต่างประเทศแล้วโดนตีกลับ

สาเหตุที่สินค้าถูกตีกลับ

ก่อนจะไปถึงวิธีแก้ไข เราต้องเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้การส่งสินค้าไปต่างประเทศแล้วโดนตีกลับเกิดจากอะไร ซึ่งหลัก ๆ มีดังนี้

 

1. เอกสารไม่ครบถ้วนหรือผิดพลาด

เอกสารประกอบการส่งสินค้าระหว่างประเทศมีความสำคัญมาก เช่น ใบกำกับสินค้า (Commercial Invoice) ใบกำกับภาษีศุลกากร หรือแม้แต่ใบอนุญาตพิเศษสำหรับสินค้าบางประเภท หากมีข้อผิดพลาดหรือขาดเอกสารบางอย่างไป ศุลกากรปลายทางอาจปฏิเสธรับพัสดุและส่งกลับมา


2. สินค้าต้องห้ามหรือถูกจำกัดการนำเข้า

แต่ละประเทศมีกฎระเบียบเกี่ยวกับสินค้าต้องห้ามที่แตกต่างกัน เช่น บางประเทศห้ามนำเข้าสินค้าจำพวกอาหาร อาหารเสริม สินค้าที่มีส่วนประกอบของสารเคมี หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ หากเราเผลอส่งของที่เข้าข่ายข้อห้ามเหล่านี้ ก็มีโอกาสสูงที่สินค้าจะโดนตีกลับ


3. ภาษีและค่าธรรมเนียมศุลกากร

บางประเทศกำหนดให้ผู้นำเข้าต้องเสียภาษีและค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม หากผู้รับปลายทางไม่ยอมจ่ายค่าภาษี ศุลกากรอาจเลือกส่งสินค้ากลับมาหาผู้ส่ง


4. ข้อมูลที่อยู่ไม่ถูกต้อง

อีกหนึ่งสาเหตุที่เจอบ่อยคือการระบุที่อยู่ปลายทางผิด หรือข้อมูลไม่ชัดเจน ทำให้บริษัทขนส่งไม่สามารถนำส่งสินค้าได้ สุดท้ายสินค้าก็ต้องถูกส่งกลับมา


ขั้นตอนที่ควรทำเมื่อสินค้าถูกตีกลับ

หากผู้ประกอบการต้องเจอกับสถานการณ์ส่งสินค้าไปต่างประเทศแล้วโดนตีกลับ ไม่ต้องตกใจไป นี่คือขั้นตอนที่ควรทำตามลำดับ 


1. ติดต่อบริษัทขนส่งทันที

ขั้นแรกให้รีบติดต่อบริษัทขนส่งที่ใช้บริการเพื่อสอบถามเหตุผลที่แน่ชัด ว่าทำไมสินค้าถึงถูกตีกลับมา การรู้สาเหตุที่แท้จริงจะช่วยให้เราสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด


2. ตรวจสอบเอกสารและรายละเอียดการส่งของ

ถ้าสาเหตุมาจากเอกสารผิดพลาดหรือขาดบางส่วน ให้รีบแก้ไขเอกสารเหล่านั้นให้ถูกต้อง เช่น การออกใบกำกับสินค้าใหม่ หรือเพิ่มเอกสารที่ขาดไป


3. ตรวจสอบนโยบายของประเทศปลายทาง

หากส่งสินค้าไปต่างประเทศแล้วโดนตีกลับมา อาจเป็นเพราะเป็นสินค้าต้องห้ามหรือมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการนำเข้า เราอาจต้องพิจารณาว่าควรเปลี่ยนประเทศปลายทางหรือไม่ หรือสามารถใช้ใบอนุญาตพิเศษในการส่งออกสินค้าดังกล่าวได้หรือเปล่า


4. เลือกวิธีจัดส่งใหม่

บางครั้งการเปลี่ยนวิธีการจัดส่ง เช่น ใช้บริษัทขนส่งที่มีความเชี่ยวชาญในการส่งสินค้าไปยังประเทศปลายทาง หรือใช้บริการขนส่งแบบ DDP (Delivered Duty Paid) ซึ่งรวมค่าภาษีศุลกากรไปแล้ว อาจช่วยลดความเสี่ยงในการส่งสินค้าไปต่างประเทศแล้วโดนตีกลับได้


5. สื่อสารกับลูกค้าหรือผู้รับปลายทาง

ถ้าผู้รับปลายทางเป็นลูกค้าของเรา ควรแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงสถานการณ์และปรึกษาหาทางออกที่เหมาะสม เช่น ขอให้ลูกค้าตรวจสอบกฎระเบียบของประเทศปลายทาง หรือพิจารณาชำระภาษีที่ค้างอยู่เพื่อรับสินค้า


ส่งสินค้าไปต่างประเทศแล้วโดนตีกลับสร้างความเสียหายกับธุรกิจ

วิธีป้องกันปัญหาสินค้าถูกตีกลับในอนาคต

ปัญหาเกิดขึ้นแล้ว แต่เราสามารถป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำได้ด้วยวิธีต่อไปนี้ 


1. ตรวจสอบชื่อที่อยู่ของลูกค้าให้ถี่ถ้วน

ทางร้านต้องตรวจสอบให้ดีก่อนว่าชื่อและที่อยู่ที่ลูกค้าแจ้งมาถูกต้องและครบถ้วนตามหลักการส่งของหรือไม่ เนื่องจากลูกค้าบางคนอาจไม่ได้แจ้งบ้านเลขที่ หรือเขตที่อยู่ ทำให้ขนส่งไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าที่อยู่ของผู้รับคือที่ไหนกันแน่ โดยเมื่อเห็นความผิดพลาด เราจะต้องแจ้งลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าช่วยทวนซ้ำอีกรอบ หรือแจ้งลูกค้าเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม 


2. ศึกษาระเบียบการนำเข้าอย่างละเอียด

  • ตรวจสอบกฎระเบียบการนำเข้าของประเทศปลายทางก่อนทำการส่งออก

  • ศึกษาข้อกำหนดด้านฉลากและบรรจุภัณฑ์

  • ตรวจสอบว่าสินค้าของคุณต้องมีใบรับรองหรือใบอนุญาตพิเศษหรือไม่


3. ใช้บริการผู้เชี่ยวชาญ

  • จ้างตัวแทนออกของ (Customs Broker) ที่มีประสบการณ์ในประเทศปลายทาง

  • ปรึกษาที่ปรึกษาด้านการค้าระหว่างประเทศ

  • ใช้บริการบริษัทตรวจสอบสินค้า (Inspection Company) เพื่อตรวจสอบสินค้าก่อนส่งออก


4. ทำความเข้าใจเงื่อนไขการส่งมอบสินค้า (Incoterms)

Incoterms เป็นข้อกำหนดสากลที่ระบุความรับผิดชอบระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในการค้าระหว่างประเทศ การเลือก Incoterms ที่เหมาะสมจะช่วยกำหนดความรับผิดชอบในกรณีส่งสินค้าไปต่างประเทศแล้วโดนตีกลับได้อย่างชัดเจน เช่น 

  • DDP (Delivered Duty Paid) : ผู้ขายรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงทั้งหมดจนถึงจุดหมายปลายทาง

  • DAP (Delivered at Place) : ผู้ขายรับผิดชอบจนถึงจุดหมายปลายทาง แต่ผู้ซื้อรับผิดชอบค่าภาษีนำเข้า

  • FOB (Free on Board) : ความรับผิดชอบของผู้ขายสิ้นสุดเมื่อสินค้าขึ้นเรือที่ท่าเรือต้นทาง



ถึงแม้ปัญหาส่งสินค้าไปต่างประเทศแล้วโดนตีกลับจะเป็นปัญหาที่น่าหนักใจสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ อย่างไรก็ดี ถ้าหากร้านของคุณมีการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแค่ลดโอกาสการเกิดปัญหานี้เท่านั้น ทว่า ยังช่วยทำให้ร้านค้าหรือธุรกิจของคุณดำเนินการต่อไปได้อย่างไม่สะดุดอีกด้วย และสำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่อยากให้มืออาชีพมาช่วยอำนวยความสะดวก ลดความยุ่งยาก เพื่อการส่งสินค้าไปต่างประเทศแบบไร้ปัญหา แนะนำ Ezy Express โดยเราพร้อมช่วยคุณจัดการทุกขั้นตอนโดยทีมงานที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 25 ปี ตั้งแต่การจัดการเอกสาร พิธีการศุลกากร การเลือกวิธีการขนส่งที่เหมาะสม ไปจนถึงการติดตามพัสดุอย่างครบวงจร ด้วยบริการ EzyShip ที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการส่งออกสินค้า


สามารถเช็กราคาเบื้องต้นได้ที่เว็บไซต์ของเรา หรือหากต้องการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามผ่านสายด่วน Ezy Express ได้ที่เบอร์ 061-398-3300 หรือ LINE Official @ezyexpress

Comments


bottom of page