top of page

อ่านก่อนส่ง! ส่งของไปญี่ปุ่น ทำได้อย่างไรบ้าง?

Updated: Dec 15, 2023


วิธีส่งของไปญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

หากจะพูดถึงระยะทางระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย ก็ต้องบอกว่าเป็นระยะทางที่ไกลกันหลายพันกิโลเมตร แต่ด้วยการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของธุรกิจโลจิสติกส์ หรือการขนส่งพัสดุ ทำให้เราสามารถส่งของไปให้เพื่อน ครอบครัว หรือคนรักที่อาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นได้อย่างง่ายดาย รวมถึงเป็นประตูสำคัญในการเปิดตลาดส่งออกสินค้าถึงมือลูกค้าที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นเพื่อขยายธุรกิจได้อีกด้วย


แต่การส่งของไปญี่ปุ่นนั้น แม้จะสามารถทำได้ง่ายดายและถึงมือผู้รับอย่างรวดเร็วผ่านบริษัทขนส่งที่หลากหลาย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดทางกฎหมายบางประการอยู่ ลองมาดูกันว่าวิธีส่งของไปญี่ปุ่นสามารถส่งได้กี่วิธี และมีสินค้าต้องห้ามอะไรบ้างที่ห้ามส่งไป เราสรุปมาให้ครบถ้วนในบทความนี้


วิธีส่งของไปญี่ปุ่น มีกี่แบบ แบบไหนเหมาะกับสินค้าอะไรบ้าง?


อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่าการส่งพัสดุไปประเทศญี่ปุ่นในยุคนี้สามารถทำได้ง่าย ๆ ซึ่งก็มีให้เลือกหลายวิธี และแต่ละวิธีก็เหมาะกับพัสดุที่แตกต่างกันไป โดยวิธีที่ส่งได้สะดวกและได้รับความนิยมจากผู้ส่งในปัจจุบัน จะมีทั้งหมด 3 วิธีด้วยกัน ดังนี้


การขนส่งทางเรือ

การส่งพัสดุไปประเทศญี่ปุ่นด้วยการขนส่งทางเรือ เป็นวิธีที่ราคาถูกกว่าการขนส่งชนิดอื่น ๆ เหมาะกับการขนส่งสินค้าปริมาณมากที่สามารถทนต่อความชื้นได้และไม่มีวันหมดอายุในระยะเวลาอันใกล้ สามารถเลือกส่งได้ทั้งแบบเหมาตู้คอนเทนเนอร์และแบบแชร์ตู้กับผู้ส่งรายอื่น ๆ ใช้เวลา 1-2 สัปดาห์จึงจะถึงจุดหมาย


การขนส่งทางอากาศแบบประหยัด

การขนส่งทางอากาศแบบประหยัด เป็นวิธีที่เร็วกว่าการขนส่งทางเรือและมีราคาถูกกว่าการขนส่งแบบ EMS ใช้เวลาขนส่งประมาณ 7-11 วันทำการ เหมาะกับผู้ส่งรายย่อยที่ต้องการส่งพัสดุที่ไม่สามารถทนต่อความชื้นได้ หรือต้องการเร่งส่งให้ถึงมือผู้รับโดยเร็ว และมีปริมาณน้อย


การขนส่งทางอากาศแบบด่วน

การขนส่งทางอากาศแบบด่วน หรือที่เรียกว่า EMS (Express Mail Service) เป็นวิธีส่งของไปญี่ปุ่นที่รวดเร็วที่สุด ใช้เวลาเพียงแค่ 3-5 วันทำการเท่านั้น แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่แพงที่สุดด้วยเช่นกัน เหมาะกับพัสดุที่ต้องรีบใช้แบบเร่งด่วน หรือมีวันหมดอายุในระยะเวลาอันสั้น เช่น เอกสารสำคัญ เครื่องสำอาง ขนม เป็นต้น


จากวิธีขนส่งทั้ง 3 วิธีนี้ เราจึงสรุปได้ว่าความแตกต่างของแต่ละวิธีอยู่ที่ราคา วิธีการ และระยะเวลาที่ใช้เป็นหลัก ดังนั้น จะเลือกใช้วิธีไหน ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของพัสดุและความเร่งด่วนในการใช้งานนั่นเอง


เช็กก่อนส่ง ของห้ามส่งไปญี่ปุ่นมีอะไรบ้าง

เช็กลิสต์ของห้ามส่งไปญี่ปุ่นที่ควรรู้

ได้รู้กันไปแล้วว่าการส่งของ หรือพัสดุไปประเทศญี่ปุ่นสามารถทำได้ด้วยวิธีไหนบ้าง แต่การส่งพัสดุไปประเทศญี่ปุ่นก็มีข้อห้ามบางประการเช่นกัน และนี่คือลิสต์สิ่งของที่ห้ามส่งไป

  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า วิสกี้ สาเก โซจู เบียร์ รวมถึงเหล้าสำหรับการทำอาหาร

  • ผลิตภัณฑ์จากนมและเนื้อสัตว์ เช่น อาหารพร้อมรับประทานที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสเนื้อสัตว์ ชีส นมผง โยเกิร์ต

  • ยา ยาเสพติด เครื่องมือแพทย์ ยาใช้เฉพาะที่ อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ

  • อาวุธและสิ่งของมีคมทุกชนิด เช่น ปืน มีด กรรไกร เลื่อย

  • บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

  • ไม้ดอกและเมล็ดพืช

  • สัตว์ต่าง ๆ รวมทั้งขนสัตว์

  • สินค้าที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม เช่น คอมพิวเตอร์ กล้องดิจิทัล นาฬิกาข้อมือ

  • สิ่งของต้องห้ามตาม Washington Convention Ivory เช่น กระดองเต่า ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง ว่านหางจระเข้และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้

  • สารพิษและสารที่เป็นอันตรายทุกชนิด เช่น สารโซเดียมไซยาไนด์ สารคลอโรฟอร์ม สารหนู

รายละเอียดที่ต้องระบุในการส่งของ

หากใครต้องการส่งของไปญี่ปุ่น และเลือกวิธีการขนส่งเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายในการส่งพัสดุไปยังประเทศญี่ปุ่นก็คือการแพ็กของให้เรียบร้อย โดยควรเลือกใช้กล่องที่มีขนาดพอดีกับสินค้า และแพ็กให้แน่นหนาเพื่อป้องกันพัสดุเสียหายระหว่างการขนส่ง นอกจากนี้ อย่าลืมระบุรายละเอียดในการส่งให้ครบถ้วนด้วย ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ รหัสไปรษณีย์ของทั้งผู้ส่งและผู้รับ และควรระบุประเภทสินค้า วัสดุ ประเทศที่ผลิต น้ำหนัก และมูลค่าลงบนหน้ากล่องให้ชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เพียงเท่านี้พัสดุของคุณก็จะถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัยแล้ว


อยากส่งของไปประเทศญี่ปุ่น หรือส่งของต่างประเทศอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งของส่วนตัวหรือส่งในรูปแบบธุรกิจ เลือกใช้บริการจาก Ezy Express เราให้บริการส่งพัสดุไปต่างประเทศแบบครบวงจร มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 20 ปี การันตีได้มาตรฐาน พัสดุถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัย สามารถเช็กราคาค่าส่งเบื้องต้นได้ที่เว็บไซต์ของเรา หรือหากต้องการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามผ่านสายด่วน Ezy Express ได้ที่เบอร์ 061-398-3300 หรือ LINE Official @ezyexpress




Comments


Commenting has been turned off.
bottom of page